การเดินทางในมัลดีฟ

การเดินทางเข้าสู่รีสอร์ทมีทั้งหมด 3 แบบ รีสอร์ทที่เดินทางด้วย Speed Boat  รีสอร์ทที่เดินทางด้วย Seaplane  รีสอร์ทที่เดินทางด้วย Domestic Flight ต่อด้วย Speed Boat ขึ้นกับโลเคชั่นของแต่ละรีสอร์ท โดยรีสอร์ทจะเป็นผู้เตรียมการเหล่านี้ให้กับลูกค้าที่เข้าพัก

เดี๋ยวเราจะมาเล่าถึง Private Resort ว่าถูกแบ่งออกเป็นกี่ประเภทและแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร ข้อดี ข้อเสีย เทคนิคในการจองแพคเกจราคาประหยัด เพื่อเพื่อนๆจะได้เข้าใจและสามารถวางแผนเที่ยวมัลดีฟด้วยตนเองได้อย่างประหยัดค่าใช้จ่าย

การเดินทางภายในประเทศมัลดีฟส์มีอะไรบ้าง แต่ละแบบเหมาะสมอย่างไร เราขออธิบายให้เพื่อนๆทุกท่านเข้าใจ

1.Speed Boat  การเดินทางเข้าสู่รีอร์ทในมัลดีฟส์ที่ใช้ Speed Boat ส่วนใหญ่จะเป็นเกาะที่เดินทางไม่เกิน 1 ชั่วโมง (ถ้าเกิน 1 ชั่วโมงถือว่าไม่เหมาะสมแล้ว เพราะจะเสียเวลาการเดินทางค่อนข้างนาน)

2.Seaplane  เป็นการเดินทางเข้าสู่รีสอร์ทด้วยเครื่องบินแบบใบพัดสะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งที่มัลดีฟเป็นฝูงบินซีเพลนที่เยอะที่สุดในโลก โดยจะให้บริการจากสนามบินมาเล่เข้าสู่รีสอร์ทเท่านั้น โดยเครื่องบิน Seaplane  1 ลำจะมีที่นั่ง 15 ที่นั่ง ไม่มีแอร์ ที่นั่งเล็กและแคบ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่อยากจะรับประสบการณ์นี้ เพราะจะได้เห็นวิวของประเทศมัลดีฟส์ที่สวยงาม การบริหารเวลาจะขึ้นกับสำนักงานของ Seaplane  เท่านั้น การดีเลย์ของ Seaplane ในประเทศมัลดีฟส์เป็นเรื่องปกติ ไม่มีตารางเวลาที่แน่นอน ซึ่งเวลาของการให้บริการจะเริ่มต้นตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น ขึ้นกับสภาพอากาศณเวลานั้นๆ

3.Domestic Flight เป็นการเดินทางเข้าสู่รีสอร์ทอีกลักษณะหนึ่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ไกลเกินระยะ ที่ Seaplan ให้บริการ หรือนอกเหนือเวลาทำการของ Seaplane ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะต้องต่อ Speed Boat เข้าสู่รีสอร์ท บนเครื่องบินมีความสะดวกสบาย ที่นั่งมีขนาดใหญ่ มีแอร์ แต่เพดานบินจะสูงกว่า Seaplane ทัศนียภาพอาจจะสู้ Seaplane ไม่ได้ ตารางเวลาบินมีความแน่นอน แต่เรื่องของการดีเลย์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้เพื่อนๆทุกท่านเข้าใจก่อนที่จะเดินทางไปในประเทศมัลดีฟ ว่าการดีเลย์ของที่มัลดีฟส์นั้นเป็นเรื่องธรรมดา หลายๆท่านมีความเข้าใจว่าการเดินทางลักษณะนี้ค่อนข้างลำบากแต่เอาเข้าจริงๆแล้ว การเดินทางในลักษณะนี้ทุกท่านจะได้ประสบการของประเทศมัลดีฟส์อย่างแท้จริง และมีความสะดวกสบาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่รีสอร์ทที่จะต้องเดินทางด้วย domestic flight  จะอยู่ในพื้นที่อันห่างไกล มีความงดงามทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสูงมาก โดยมีคำพูดติดปากของคนที่นั่นว่า so far so good